งานครั้งที่ 5 การนำIT ไปประโยชน์ใช้เพื่อเป็นผู้ประกอบการ

การนำIT ไปประโยชน์ใช้เพื่อเป็นผู้ประกอบการ

การขยายตลาดการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ (Entrepreneur)
ผู้ประกอบการ(Entrepreneur) สามารถขยายศักยภาพการทำธุรกิจโดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ(InformationTechnologyIT) มาใช้ประยุกต์และทำการตลาดเชิงรุก รูปแบบการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศมีลักษณะและระดับความสำคัญที่แตกต่างกันไป ไม่ว่า
จะเป็นการนำไปใช้เพื่อวิเคราะห์เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และแนวทางดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่ธุรกิจหรือองค์กรได้กำหนดไว้และเพื่อปรับปรุงพัฒนาการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้นการนำไอที   เข้าไปประยุกต์ใช้กับองค์กรธุรกิจโดยใช้จัดเก็บข้อมูลการดำเนินธุรกิจเพื่อนนำไปพัฒนาโมเดลและวิเคราะห์ปัจจัยหลักที่เหมาะสมต่างๆเพื่อพัฒนาคุณภาพของการเป็นผู้ประกอบการนั้นดียิ่งขึ้น รวมถึงด้านการควบคุมคุณภาพ การติดตามการดำเนินงาน การดูแลให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
       ด้วยสภาพเศรษฐกิจการแข่งขันของธุรกิจในปัจจุบันทำให้ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ทั้งที่มีอยู่เดิมและผู้ประกอบการ รายใหม่หันมาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(Information
and CommunicationTechnology) เป็นช่องทางสำหรับประกอบการดำเนินธุรกิจบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต(Internet) เพื่อเปิดตลาดของสินค้าใหม่ ที่ ได้จากงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม
(Innovation) และเพิ่มช่องทางสำหรับสินค้าที่มีอยู่ ช่วยลดต้นทุน ประกอบการ ได้แก่ ลดต้นทุนสินค้าที่จัดเก็บ การจัดตั้งสถานที่ เพิ่มช่องทางค้าขาย ติดต่อลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และง่ายต่อการ
ขยายตลาด การดำเนินธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตช่ วยสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับธุรกิจ ซึ่ งสามารถติดต่อซื้อ-ขาย และทำธุรกรรมกับลูกค้า หรือคู่ ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ สามารถเผยแพร่ โฆษณาให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและในปริมาณมากโดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ซึ่งนอกเหนือจากการทำใ นเชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(e-Commerce) แล้วยังเกิดเครือข่าย  ธุรกิจ(Business Network) ขึ้นจำนวนมาก ทำให้เกิดการเชื่อมต่อกันระหว่างธุรกิจไม่เพียงแต่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกันแต่รวมถึงธุรกิจที่
อยู่ในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของธุรกิจด้วย

งานครั้งที่ 4 การเป็นผู้ประกอบการ หรือ ผู้ทำมาหากิน อันไหนจะดีกว่ากัน

<<-- การเป็นผู้ประกอบการ หรือ ผู้ทำมาหากิน อันไหนจะดีกว่ากัน -->

อยากเ็ป็นผู็้้ประกอบการครับ อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ...

      ซึ่งก็ต้ิองมีคุณสมบัติหลาย ๆ อย่าง เข้าประกอบกัน ต้องวิเคราะห์ สถานะการณ์ ความเ็ป็นแปลงทางการตลาด  จำเป็นจะต้องทราบการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง าซึ่งการได้ วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัดนอกจากนั้น ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้ ต้องศึกษาเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เช่น นโยบายของรัฐบาล ความต้องการของผู้บริโภค  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ ที่จะเป็นได้โดยง่าย    

   หลาย ๆ คนคิดจะเ็ป็นผู้ประกอบการ โดยเริ่มตั้งแต่ การเ็ป็นผู้ทำมาหากินและ้ก็บเอาประสบการณ์ ความรู้ต่าง ๆ จนสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง  หลายคนใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพ่อหลวง มาใช้เ็ป็นหลักในการทำงาน โดยการเพิ่มทักษะ (skill) ความู้ความสามรถที่ตัวตนเองมีอยู๋เข้าไปด้วย รู้จักประหยัดอดออม แบ่งสันปันส่วนต่าง ๆ ให้สามารถทำรายได้ให้กับเรา โดยที่ใช้เงินมาลงทุนน้อยที่สุด  

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สำคัญมี 5 ประการ ได้แก่
1.   ทางสายกลาง หมายถึง การตั้งอยู่ในความไม่ประมาทพึ่งตนเองให้มากขึ้น ในทุกระดับ
2.   ความสมดุลและความยั่งยืน หมายถึงการเน้นการพัฒนาลักษณะองค์รวม ความพอดี พอเหมาะ  มีความหลากหลาย และกลมกลืน มีความยั่งยืน ปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3.  ความพอประมาณอย่างมีเหตุผล  หมายถึง ไม่โลภ ไม่ฟุ้งเฟ้อ รู้จักพอ มีเหตุผล มีความพอประมาณ
4.  ภูมิคุ้มกันและรู้เท่าทันโลก หมายถึง มีความรอบคอบ และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก สามารถป้องกัน หรือลดผลกระทบ อันเกิดจาก ความผันผวน   หรือความผกผันของโลกภายนอก
5.  การเสริมสร้างคุณภาพคน หมายถึง ใน คุณธรรรม ความซื่อสัตย์สุจริต มีไมตร เอื้ออาทร ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน มีความเพียร มีวินัย พัฒนาปัญญาและความรู้อย่างต่อเนื่อง

        3 ห่วง หมายถึง องค์ประกอบหลัก 3 ประการของความหมายเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่  
ก) ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
ข) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆอย่างรอบคอบ
ค) การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

         2 เงื่อน หมายถึง เงื่อนไขอันเป็นพื้นฐานในการคิดตัดสินใจทำกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงประกอบด้วย 2 เงื่อนไขได้แก่  
ก) คุณธรรม ประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ข) ความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ

ถ้าเราดำเนินการอยู่บนความพอเพียง ทุกอย่างก็สำเร็จโดยง่าย ครับ เดินทางอยู่บนเส้นทางสายกลาง ไม่ตึงไม่หย่อน  เกินไป รู้จักตัวเองอันเ็ป็นที่ตั้ง  

แค่ คิดดี ทำดี พูดดี     มีความซื่อสัตย์  อดทนสู้ เหมือนตัวอย่างหลาย ๆ คนที่อาจารย์ยกมาให้เราอ่าน แค่นี้ก็เป็นเจ้าของกิจการระดับ เทพแล้วครับ

งานครั้งที่ 3.....คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย

ส่งงานครั้งที่ 3  คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย (เรื่องสั้น เรื่องจริง)คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย...

            จาก เรื่องสั้นที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดมานั้น  เ็ป็นเรื่องที่จะนำมาเเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่งเลยครับ  เพราะ จากเรื่องที่ได้อ่านนั้น คุณลุงที่ขับแท๊กซี่คนร้อยเอ็ด ผมได้เห็น การตัดสินใจที่ทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ก้าวเ้ท้าเข้าสู่โลกกว้างตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วก็ได้มาขับแท็กซี่  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นเสมอไป เพราะคุณลุงแกติดเหล้า และ เคยประสบอุบัติเหตุ กับรถแท๊กซี่อีก ทำให้ต้องดินรนขอเงินจากญาติ เพื่อมาขับแท็กซี่ต่อ  นี่แหละครับ! ชีวิตที่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้... แน่นอน ครับ ! จุดเปลี่ยนของชีวิตของหลายคนหลายอาชีพหลายชีวิตย่อมมีความแตกต่างกัน บางคนก็มีเส้นทางที่ Happy แต่ก็คงน้อยนัก  แต่สำหรับ คนลุงหัวใจเกินร้อย (ร้อยเอ็ด) คนนี้มีภรรยาที่ต้องคอยดูแล แต่ตัวเองเป็นคนติดเหล้า จึงเอาเงินไปลงขวดหมด...ทำให้หลายครั้งที่ภรรยาต้องเอื่ิอมระอาและทนไม่ได้

         ณ จุดนี้เองที่ทำให้ชีวิตคุณลุงต้องหันกลับมา คิดทบทวน เรื่อง ราวทั้งหมดที่ผ่านมา จากคนที่ติดเหล้าต้องพยามเลิกเหล้าให้ได้ และคุณลุงก็ทำได้จริง ๆ ด้วยกันกินข้าวให้อิ่มไ้ว้จะได้ไม่อยากดื่มเหล้า  และคุณลุงก็ทำมาหากินโดยขยันขันแข็ง ส่งเงินให้ทางบ้านอยู่เรื่อย ๆ สร้างบ้านให้พ่อให้แม่ได้สำเร็จ อย่างที่หวังไว้  

   นี้แหละครับ คนสู้ชีวิตที่ต้องเอาเ็็ป็นแบบอย่าง ถึงแม้จะมีอุปสรรค สักเพียงใด ต้องอดทนและสู้ให้ถึงที่สุด และอีกอย่างกำลังใจจากครอบครัวจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเ็ป็นหลังมือ..ถึงแม้จะไม่ได้รวยเหมือนคนอืน แต่คุณลุงก็ยังมีความสุข มีความหวังที่จะได้ทำเพื่อคนที่รัก...




กด like ให้สัก ล้านครั้ง ให้คุณลุงคนนี้




สู้ ๆ  นะครับ 

     

 คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย .....

....................................................

งานครั้งที่ 2 ขั้นตอนที่ 8 การหาจุดเด่นของช่องทางการขาย

ขั้นตอนที่ 8   การหาจุดเด่นของช่องทางการขาย   และหาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า  ช่องทางฯ จะต้องใช้ความสัมพันธ์ที่ดี และเสมือนข้อผูกมัด  เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเพราะจะต้องมีการพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของสินค้าการบริการลูกค้า  เปิดโอกาสให้สินค้าออกสู่สายตาลูกค้า  เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงตัวสินค้า โดย    nระบุความจำเป็นที่จะต้องมีการออกแบบช่องทางฯnตั้งวัตถุประสงค์ของช่องทางฯnกำหนดงานและหน้าที่ในช่องทางฯnการพัฒนาโครงสร้างช่องทางฯที่อาจเป็นไปได้nการประเมินและการเลือกช่องทางฯnการเลือกโครงสร้างช่องทางฯ ที่ดีที่สุดnการคัดเลือกสมาชิกช่องทางฯ ตัวอย่าง  ช่องทางผ่าน  ระบบ e-commerce     การขายสินค้า และบริการผ่านระบบ e-commerce ซึ่งจัดการนำเนอ ขายสินค้า ผ่านเว็บไซค์  ในการทำอีคอมเมิร์ซนั้นไม่ใช่เพียงแค่เป็นเว็บเพจหรือช่องทางการจำหน่ายสินค้า แต่อีคอมเมิร์ซยังมีความหมายรวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดเวลาที่ต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ    รวมไปถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับผู้บริโภค และผู้ค้าส่ง สำนักวิจัยไอดีซี (IDC) ได้ประมาณรายได้ของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B-to-B) ว่าเพิ่มขึ้นจาก 80 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,200 พันล้านบาทในปี พ.ศ. 2542 เป็น 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 40 ล้านล้านบาทในปี พ.ศ. 2546         หากท่านเป็น คนหนึ่งที่ทำธุรกิจอยู่ ณ ขณะนี้ หรือคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าระบบ อีคอมเมิร์ชมีความสำคัญ และ ความจำเป็นต่อระบบการค้าในขณะนี้มากขนาดไหน ...... เหล่านี้จะช่วยให้การจัดจำหน่ายสินค้า ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกเป็นขั้นตอน ของการสร้างนรายได้ออนไลน์อีกช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาด้วย ครับ