วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

คิดแหวกแนว power Capsule (PCS) อาหารในอนาคต..


power Capsule (PCS)
เป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต ที่กำลังจะเป็นจริงในเร็ว ๆ นี้ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่รวมเอา อาหารหลัก 5 หมู่ รวมอยู่ใน Capsule เดียว โดยมีทั้ง อาหารหลัก 5 หมู่ที่บดละเอียดตามหมูนั้น ๆ   
          หมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว
          หมู่ที่ 2 ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน
          หมู่ที่ 3 ผักใบเขียวต่าง ๆ
          หมู่ที่ 5 ไขมันและน้ำมัน


      พลังงานที่ควรได้รับจากการรับประทานอาหาร

โดย 1 capsule สามารถให้พลังงาานที่แตกต่างกัน ตามช่วงวัย โดยคิดเฉลี่ย 1 capsule / คาบคน

เด็กทารก ต้องการพลังงานประมาณวันละ  1100  กิโลแคลอรี จะเท่ากับ 
 1  capsule  ประมาณ  366.66 กิโลแคลอรี / คาบ

เด็กหญิงและเด็กชายต้องการพลังงานประมาณวันละ  2000  กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ 666.66  กิโลแคลอรี / คาบ

เด็กวัยรุ่นเพศหญิงต้องการพลังงานประมาณวันละ  2500  กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ 833.33 กิโลแคลอรี / คาบ

เด็กวัยรุ่นเพศชายชอบเล่นผาดโผนและมีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากกว่าเพศหญิง
ต้องการพลังงานประม

ส่วนผู้ชายซึ่งทำงานที่ไม่ต้องออกแรงมากนัก เช่น นักธุรกิส่วนตัว
(ไม่ต้องออกแรงมากนัก)  ต้องการพลังงานประมาณวันละ  3000  กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ 1000  กิโลแคลอรี / คาบ 

แต่สำหรับผู้ชายซึ่งทำงานที่ต้องใช้แรงงาน เช่น งานาณวันละ  3000  กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ  1000  กิโลแคลอรี / คาบ

ผู้หญิงโดยเฉลี่ยต้องการ พลังงานประมาณวันละ  2200  กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ  733.33  กิโลแคลอรี / คาบ 

ต้องการพลังงานประมาณวันละ  4000 กิโลแคลอรี
 capsule  ประมาณ  1333.33  กิโลแคลอรี / คาบ



ข้อดี....
1.สามารถพกพาไปกินที่ไหนได้ เช่น บนอวกาศ  เมื่อคุณเดินป่า ใต้น้ำ
2. สามารถกินทดแทนอาหารหลักที่คุณต้องการได้ และให้พลังงานเท่ากัน
3.สามารภกำหนดสารอาหารที่ต้องการเองได้
4.มีกลิ่นและรถชาติที่ไม่ฉุน ไม่ละลายในปาก 






วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

งานคร้งที่ 12 style ผู้นำที่ชอบ

 Affiliative style คือ

ผู้นำที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง สร้างมิตรภาพในการทำงาน รักความสมานฉันท์   เมือ่เวลาทำงานจะสามารถผ่อนคลายและพูดคุยกันในแต่ฝ่ายได้ง่ายขึ้นจะได้  ติดต่องานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หัวหน้าแบบนี้จะเป็นที่รักใคร่ของลูกน้อง เพราะเป็นกันเอง มีอะไรสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง และแน่นอนว่าคนที่ทำงานด้วยจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอนครับ  


ผู้ตามดี ผู้นำดีต้องดีแน่ 
ผู้นำดีผู้ตามแย่ พอแก้ไข
ผู้นำแย่ ผู้ตามดีมีทางไป
ถ้าผู้นำไม่เอาไหนฉิบหายแล


 แต่ก็ต้องเด็ดขาดบ้างในเวาลาทำงาน เพื่อทำให้ลูกน้องเห็นว่าคุรสามารถนำพาลูกน้องหรือผู้ตามไปยังเป้าหมายที่วางไว้ได้


วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ส่งงานครั้งที่ 10 จากที่ฟังพี่ทัศนีย์พูด

      จากที่ฟังที่ฟังทัศนีย์พูดนะครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีน่าติดตามมาก  จากตั้งแต่เริ่มต้นที่เป็นโปรแกรมเมอร์ แล้วหันเหมาเอาทางด้านการ graphics design  ทางชีวิตที่เล่ามาได้เจอผู้คนมากมาย ลูกค้าหลากหลายรูปแบบหลายสไตล์ ในขณะที่ทำงานด้านการตกัดต่อวิดีโอเป็นหลัก  ต้องหัวหน้างานที่คอยเล่นงานเหมือนกับในละครน้ำเน่าของไทย  ขณะที่เป็นครูชำนาญการที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของเอกชน  แต่พี่ก็ผ่านจุดนั้นมาจนได้ ทั้งนี้ต้องอาศัยความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก และต้องมีไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  การที่จะทำอะไรแล้วเราต้องตั้งใจทำให้สุด ๆ ทำในสิ่งที่ตนเองชอบเป็นดีที่สุด  
   
       ตอนนี้งานที่พี่ทำก็เริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ได้เดอืนละหลายหมื่นต้น ๆ จนเกือบแสน  ท้ังนี้การทำงานและละชิ้นต้องมีการคุยกับลูกค้า ทำสัญญาต่าง ๆ ให้ดี และระวังให้ดีลูกค้าชอบจ่ายเงินไม่ตรงเวลาหรือไม่จ่ายเลย

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

งานครั้งที่ 9 กฏหมายมีความสัมพันธ์กับผู้ประกอบการอย่างไร


ผู้ประกอบการกับกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ

กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law) (Information Law) หรือมักเรียกกันว่า "กฎหมายไอที (IT Law) ในเบื้องต้น ที่จำเป็นต้องมีการตรากฎหมายขึ้นใช้บังคับ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2541 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบต่อการจัดทำโครงการพัฒนา กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศที่เสนอโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ สิ่งแวดล้อม และเห็นชอบให้คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (National Information Technology Committee) หรือที่เรียกโดยย่อว่า "คณะกรรมการไอทีแห่งชาติ หรือ กทสช. (NITC)" ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการจัดทำกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
       ทั้งนี้คณะกรรมการไอทีแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อยกร่างกฎหมายไอทีทั้ง 6 ฉบับ โดยมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center) หรือที่มักเรียกโดยย่อว่า "เนคเทค" (NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science and Technology Development Agency) หรือที่เรียกโดยย่อว่า "สวทช." กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการไอทีแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการยกร่างกฎหมายไอทีทั้ง 6 ฉบับ เนคเทคจึงได้เริ่มต้นโครงการพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศขึ้น เพื่อปฏิบัติตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและคณะกรรมการไอทีแห่งชาติ ในการยกร่างกฎหมายไอทีทั้ง 6 ฉบับ ให้แล้วเสร็จ คือ

       กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ
       1) กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Law)
       2) กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law)
       3) กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law)
       4) กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law)
       5) กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer Law)
       6) ฎหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ (National Information Infrastructure)
     
       1. กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Transactions Law)เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยกระดาษ อันเป็นการรองรับนิติสัมพันธ์ต่าง ๆ ซึ่งแต่เดิมอาจจะจัดทำขึ้นในรูปแบบของหนังสือให้เท่าเทียมกับนิติสัมพันธ์ รูปแบบใหม่ที่จัดทำขึ้นให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมตลอดทั้งการลงลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และการรับฟังพยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์Text Box: 6-2 
      2. กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law )เพื่อรับรองการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยกระบวนการใด ๆ ทางเทคโนโลยีให้เสมอด้วยการลงลายมือชื่อธรรมดา อันส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากขึ้นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และกำหนดให้มีการกำกับดูแลการให้บริการ เกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตลอดจนการให้ บริการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 
      3. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law)เพื่อก่อให้เกิดการรับรองสิทธิและให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจถูกประมวลผล เปิดเผยหรือเผยแพร่ถึงบุคคลจำนวนมากได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วโดยอาศัยพัฒนาการทางเทคโนโลยี จนอาจก่อให้เกิดการนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงการรักษาดุลยภาพระหว่างสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร และความมั่นคงของรัฐ
       4. กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law)เพื่อกำหนดมาตรการทางอาญาในการลงโทษผู้กระทำผิดต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบข้อมูล และระบบเครือข่าย  ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองการอยู่ร่วมกันของสังคม 
        5. กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer Law)เพื่อกำหนดกลไกสำคัญทางกฎหมายในการรองรับระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เป็นการโอนเงินระหว่างสถาบันการเงิน และระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ในรูปของเงินอิเล็กทรอนิกส์ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อระบบการทำธุรกรรมทางการเงิน และการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น
       6. กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน(National Information Infrastructure Law)เพื่อก่อให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ อันได้แก่ โครงข่ายโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศสำคัญอื่น ๆ อันเป็นปัจจัยพื้นฐาน สำคัญในการพัฒนาสังคม และชุมชนโดยอาศัยกลไกของรัฐ ซึ่งรองรับเจตนารมณ์สำคัญประการหนึ่งของแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 78 ในการกระจายสารสนเทศให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกันและนับเป็นกลไกสำคัญในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีศักยภาพในการปกครองตนเองพัฒนาเศรษฐกิจภายในชุมชน และนำไปสู่สังคมแห่งปัญญา และการเรียนรู้



จากการบังคับใช้กฏหมายต่าง ๆ ผู้ประกอบการ จะต้องมีการปฏิบัติตามเหมือนกับกฏหมายประเภทอื่น ๆ  เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นกลางแก่ผู้บริโภค

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ส่งงานครั้งที่ 8 ฟังบรรยายจาก พี่ถาวร

                 หลังจากที่ได้ฟังการบรรยายอย่างเป็นกันเอง ของพี่ถาวร และพี่อีกคนที่มาด้วยกัน ซึ่งก็สนุกและพี่ก็ทำเอาผมและเพื่อน ๆ หัวเราะกันทั้งห้อง ทำให้ผมได้แนวคิดแง่ๆคิดต่าง ๆ มากมาย  หนึ่งในนั้นคือการใช้ชีวิตในบริษัท ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งต้องกระตือรือร้นไปทำงานตั้งแต่เช้า เย็นกลับก็ดึก มันเป็นสังคมที่ต้องแข่งขันกัน คนที่ประจบเจ้านายเท่านั้นท่จะอยู่รอดได้ การใช้ชีวิตลำบากมาก กินแต่มามา ๆ เช้าำไปทำงานถ้ามไม่เข้า  seven ก็ำไม่มีอะไรกิน ต้องทนหิว รายได้ก็ไม่เท่าไหร่ แถมยังโดนหลอกใช้งานแบบหน้าไหว้หลังหลอก  --- นี่แหละครับชีวิตมนุษย์เงินเดือน  เฮ้ยเหนื่อยแทน
           พี่ถาวรบอกว่า ทำงานอยู๋ได้ไม่นานก็ลาออก เพราะมันไม่ใช่แนวเพราะไม่มีเวลาให้กับตัวเองเลย ไม่มีเวลาพัก เที่ยวใช้ เงิน แถมยังต้องเหนื่อย จึงตัดสินใจกลับอุบล ฯ มาตั้งต้นเขียน solfware ขาย แต่แรก ๆ ก็ต้องยอมเพราะเจอลูกค้าเบี้ยวค่างานตลอดเลย พี่เค้าบอกว่าเจอประจำ ดังนั้นการรับเงินจะต้องรับ 50% จากลูกค้าก่อนแล้วรับอีก 50 % ตอนติดตั้ง จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเิงินให้มากนัก  มาิอยู่นี่ได้ซักพักก็เริ่ม อยู่ตัว ตอนนี้ก็มีกิจการเป็นของตัวเอง  รายได้ต่อเดือนเดือนหนึ่งเป็น แสน 555 เยอะ ๆ ลูกค้าพี่เค้าอยู่ทุกสารทิศ บ้างก็รับงานจากข้างนอกมาทำ จน ตอนนี้ล้นมือละ 

    ทกวันนี้พี่เค้าก็สบาย พออยู๋พอกิน พี่เค้า่บอกว่าทำอะไรแล้วทำให้มันสุด ๆ ไปเลย ถึงล้มก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่  คนที่ล้มบ่อยและลุกบ่อย นั่นหละคือคนที่จะประสบผลสำเร็จเร็ว
      

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งานครั้งที่ 7 การปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะการนำ IT เข้าไปประยุกต์ใช้งาน

การปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะการนำ IT เข้าไปประยุกต์ใช้งาน


       การเกิดขึ้นของประชาคมอาเซียน  ชี้ว่าสังคมไทยในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องที่กระทบ
ต่อวิถีชีวิตที่เคยดำเนินมาในอดีต  เราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเรียนรู้ ปรับตัว และเตรียมการ   ประเด็นที่คนรรุ่นใหม่ควรต้องเตรียมตนเอง  เพื่อทำให้มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต  ทั้งนี้ประเทศไทยเองต้องมีกาปรับตัวในหลาย ๆ อย่าง เพื่อที่จะเตรียมรับมือ กับการวมกลุ่มในครั้งนี้   และแน่นอนว่า เทคโนโลสาสนเทศจะเข้ามามีบทบบาทในการดำรงชีวิตของเรามากขึ้น   

         การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยรัฐมนตรี ICT อาเซียนได้ขอให้เจ้าหน้าที่อาวุโสดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือของ ASEAN International Telecommunications Network Connectivity Disaster Preparedness and Recovery อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติ รวมทั้งขอให้เร่งรัดผลการศึกษาคลื่นความถี่ร่วมเพื่อการสื่อสารสำหรับการปฏิบัติการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ และพัฒนาระบบการเตือนภัยล่วงหน้าด้วย
        ส่วนการพัฒนาความร่วมมือด้านไอซีทีของอาเซียนในระหว่างปี  2551-2552 นั้น มีทั้งการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ความมั่นคงด้านข้อมูล พื้นฐานเทคโนโลยีพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการเชื่อมโยงเครือข่ายภูมิภาคอย่างมีความคงทนและหลากหลาย ซึ่งรัฐมนตรี ICT อาเซียนต่างหวังว่า ความริเริ่มเหล่านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกรรมในภูมิภาคอาเซียนและพัฒนาให้อาเซียนเป็นอีกภูมิภาคที่มีความน่าสนใจสำหรับการลงทุน ทั้งนี้ยังมีการบูรณาการเทคโนโลยีสาสนเทศที่สำคัญ  ได้แก่ Green ICT, Cyber Education for Children, Mobile Data Roaming, มาตรฐานพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจัดสรรคลื่นความถี่ และ ASEAN Internet Exchange เป็นต้น
     โดยจัดทำ เว็บขายสินค้า ออนไลน์  เว็บ e-commerce ให้บริการแก่ชาวต่างชาติ
และผลักดัน การใช้ solfware ที่มีคุณภาพเพื่อให้สามารถช่วยเหลือ ชาวต่างชาติได้ เช่น โปรแกรมนำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมสั่งอาหาร  โปรแกรมแจ้งเหตุด่วน ฯลฯ เป็นต้น เหล่านี้ในอานาคตอีกข้างหน้าจะเข้ามมีบทบาทสัมคัญต่อ การพัฒนาและการท่องเที่ยวสามารถนำรายได้ เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าไทยเราสามารถปรับตัวได้เร็วกับการนำสาสนเทศมาประยุกต์ใช้แน่นอนครับ